MasterMovieBlog รีวิวหนัง : DEADPOOL (2016)

 DEADPOOL ฮีโรโคตรเกรียน นรกแตก!!


ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง
ประเภท : แอคชั่น, ผจญภัย, ซุปเปอร์ฮีโร
ผู้กำกับ : ทิม มิลเลอร์
นักแสดงนำ : ไรอัน เรย์โนลส์โมเรนา บัคคารินที.เจ. มิลเลอร์ไบรอันนา ฮิลเดอแบรนด์
ความยาว : 1 ชม. 49 นาที
กำหนดฉาย : 11 กุมภาพันธ์ 2016

    DEADPOOL เป็นภาพยนตร์แอนตี้ฮีโร จากมาร์เวลคอมมิกส์ ซึ่งได้ออกฉายในปี 2016 ที่ผ่านโดยมีทั้งหมด 2 ภาค แต่วันนี้เราจะมารีวิว DEADPOOL ภาค 1 จุดเริ่มต้นของความเกรียนกันครับ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นโดย เวด วิลสัน (ไรอัน เรย์โนลส์) อดีตทหารรับจาก ที่ในปัจจุบันเค้ารับจ้างงานเรื่อยเปื่อยไปวันๆ จนวันหนึ่งเค้าได้ไปพบรักกับ วาเนสซา คาไลส์ล สาวในบาร์แห่ง ซึ่งแน่นอนเธอเป็นนางเอกของเรา ทั้งคู่เริ่มคบหาดูใจกันอย่างจริงจัง จนเรื่องน่าเศร้าเกิดขึ้นกับ เวด เมื่อเค้าตรวจพบว่าตัวเอง เป็รมะเร็งระยะสุดท้าย เวด ที่กำลังเศร้าจนถึงที่สุด ก็ได้พบกับหนทางที่จะช่วยเค้าให้รอดจากความตายได้ เมื่อมีชายใส่สูทชุดดำ มามอบขอเสนอให้เค้าที่ยากจะปฏิเสธ คือ การรักษามะเร็งระยะสุดท้าย ให้หายได้ เว็บดูหนังฟรี


    DEADPOOL เวด ได้เข้ารับการรักษาที่บริษัทนรกแห่งหนึ่ง ซึ่งที่จริงแล้วเหมือนบริษัทแห่งนี้จะเป็นเหมือนคุกที่ใช้ทกลองมนุษย์เกี่ยวกับพลังพิเศษมากกว่า แต่ เวด ต้องจำใจเข้ารับการทดลองเพื่อที่เค้าอาจจะมีโอกาศหายจากโรคมะเร็งได้ แต่หลังจากการทำลอง เวด ก็ได้พบว่าตัวมีรูปลักษณ์ ที่แปลกไป ใบหน้า ไม่มีผม ผิมหนังพุผองทั่วทั้งร่างกาย แต่มันเป็นเพียงผลข้างเคียงจากพลังที่เค้าได้รับนั้นเอง ซึ่งพลังที่ เวด ได้รับคือ พลังในการรักษาตัวเองขั้นสุดยอด หรือที่เรียกกันว่า "ฮีลลิ่งแฟคเตอร์" นั้นเอง ใครนึกภาพไม่ออก ก็พลังที่พระเอก วูฟเวอรีน มีนั้นแหละครับ เมื่อ เวด หายจากโรงมะเร็งแล้ว เค้าจึงได้ออกตามล่าคนที่อยู่เบื่องหลังองค์กรนี้ โดยใช้ชื่อว่า DEADPOOL นั้นเอง

      
    ตัวหนังจะออกแนวเรียลหน่อยๆ เลือดสาด 20+ มีคำหยาบค่อนข้างมากเลยที่เดียว CG ไม่ต้องพูดถึงหนังระดับนี้ การเล่าเรื่องถือว่าโอเค มุขตลกส่วนใหญ่จะเป็นการล้อเลียนภาพยนตร์เรื่องต่างๆ ซะมากกว่า ฉากบู๊ ต่อสู้ทำออกมาได้ดีมากๆ ทำให้ไม่น่าเบื่อ โดยรวม DEADPOOL ถือเป็นหนังแอนตี้ฮีโรปากหมาที่สมควรดูเป็นอย่างยิ่งครับผม 


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

MasterMovieBlog รีวิวหนัง : You are My Spring (2021)

MasterMovieBlog รีวิวหนัง : Accidentally In Love (2018)

MasterMovieBlog รีวิวหนัง : Sexify (2021)