MasterMovieBlog รีวิวหนัง : The 8th Night (2021)

 รีวิวหนังเกาหลีแนวปราบผี “The 8th Night” คืนที่ 8 เรื่องราวความหลอนที่คุณจะต้องอ้าปากค้างพร้อมความสั่นประสาท


ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง
ประเภท : สยองขวัญ, ระทึกขวัญ, ลึกลับ
กำกับโดย : Kim Tae-hyoung 
นักแสดงนำ : Kim Yoo-jung, Nam Da-reum, Lee Sung-min
ความยาว : 1 ชั่วโมง 55 นาที
กำหนดฉาย : 2 มิถุนายน 2564

    The 8th Night เรื่องราวความเชื่อถือเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้มนุษย์ก่อเกิดสิ่งที่เรียกว่า “ศาสนา” ขึ้นมาเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อความเชื่อที่ดูเหมือนพิสูจน์ไม่ได้ สัมผัสก็ไม่ได้อีก กลับกลายเป็นสิ่งที่ชักนำเหตุการณ์สยดสยองให้เกิดขึ้นอย่างน่ากลัว หนังเกาหลีเรื่องนี้เลือกใช้ “ศาสนา” เป็นตัวเส้นเรื่องหลัก เปิดฉากมาที่ “ศาสตราจารย์คิม” เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุโบราณและเชื่อว่าตำนานที่เล่าเกี่ยวกับองค์พระพุทธเจ้าที่จัดการมารร้ายที่หวังเปิดประตูนรก ด้วยการควักลูกตาทั้งสองข้าง ประกอบด้วย “ตาสีเลือด” และ “ตาสีนิล” ออกมา จากนั้นนำพวกมันแยกออกจากกันโดยการใส่ลงกล่องสรีรธาตุ เพื่อป้องกันไม่ให้มันกลับมารวมกันและฟื้นคืนร่างขึ้นมาได้ แต่ศาสตราจารย์คิมต้องการพิสูจน์ให้คนทั้งโลกเห็นว่ามันมีอยู่จริง เขาแทบจะอุทิศทั้งชีวิตในการตามหามัน จนวันหนึ่งความพยายามของเขาก็บรรลุผล แต่กลับกลายเป็นว่าเขาถูกโจมตีจากนักโบราณคดีคนอื่น ๆ หลังจากผลแลปตรวจอายุของกล่องนี้ออกมา ทุกคนตีตราว่าเขาเป็นพวกปลิ้นปล้อน ศาสตราจารย์จึงจัดการปลุกชีพปีศาจร้ายนั้นขึ้นมา ก่อให้เกิดเหตุการณ์การเสียชีวิตที่น่าสะอิดสะเอียนที่สุดในรอบศตวรรษขึ้น มีทั้งนักบวชและหญิงสาวต้องสังเวยชีวิต เพราะตามตำนานเล่าว่าปีศาจตนนี้จะต้องข้ามชีวิตของคนไป 8 คน ก่อนที่จะกลับมามีพลังอีกครั้งในคืนพระจันทร์สีเลือด จึงเป็นที่มาที่เหล่าผู้ที่ได้รับหน้าที่ให้ดูแลกล่องสรีรธาตุ ซึ่งได้แก่ นักบวชคนหนึ่งต้องเร่งหาหนทางในการขัดขวางมันให้จงได้ ก่อนที่โลกทั้งใบจะเต็มไปด้วยความวินาศ เว็บดูหนังใหม่ล่าสุด 2021


    The 8th Night ส่วนตัวรู้สึกประทับใจและทึ่งไปกับความสามารถด้านการสร้างองค์ประกอบโดยรวมทั้งหมดของหนังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก การดึงเอาตำนานเกี่ยวกับศาสนาและสอดแทรกปรัชญาการใช้ชีวิตไปด้วยไม่ใช่เรื่องง่ายแม้แต่น้อย หนังเรื่องนี้ทำให้เราเห็นรูปธรรมของคำว่า “นรก-สวรรค์” ได้ชัดเจน แนวทางการเล่านั้นเป็นการบอกว่าธรรมะย่อมชนะอธรรม แต่ก็อย่าจงนิ่งนอนใจว่าอย่างไรคนที่ทำดีก็ต้องชนะ ทุกการต่อสู้ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยหลายอย่างประกอบกัน การที่ให้คนดีชนะตลอดคงเป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรมสำหรับธรรมชาติของโลกใบนี้ นั่นทำให้เราเห็นการสูญเสียมากกว่าก่อนจะถึงหนทางสำเร็จ การปราบปราบปีศาจร้ายนั้นมีความนัยแฝงซึ่งทีมผู้สร้างถ่ายทอดออกมาได้ดีจริง ๆ อยากให้ทุกคนลองตามดูหนังเรื่องนี้สักครั้ง นอกจากโปรดักชันที่ดีงามหายห่วงแล้ว พล็อตเรื่องก็ทำออกมาได้ไร้ที่ติ



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

MasterMovieBlog รีวิวหนัง : You are My Spring (2021)

MasterMovieBlog รีวิวหนัง : Accidentally In Love (2018)

MasterMovieBlog รีวิวหนัง : Sexify (2021)