MasterMovieBlog : Escape from Pretoria (2020)

 รีวิวหนัง Escape from Pretoria หนังแหกคุกสุดอัจฉริยะที่มีเค้าโครงสร้างจากเรื่องจริง งานนี้คนดูมีลุ้นจนตัวเกร็ง

ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง

ประเภท : ระทึกขวัญ, ดราม่า

กำกับโดย : ฟรานซิส แอนแนน 

นักแสดงนำ : แดเนียล แรดคลิฟฟ์, ทิม เจนกิน, มาร์ก โอนาร์ด วินเทอร์, แดเนียล เว็บเบอร์

ความยาว : 1 ชั่วโมง 46 นาที

กำหนดฉาย : 5 มีนาคม 2563

    Escape from Pretoria ในยุคที่มีการเหยียดสีผิวอย่างรุนแรง และจะเห็นได้จากการที่ผู้คนชาวผิวสีถูกทำร้ายร่างกายอยู่เสมอ ผู้คนผิวขาวส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะเหยียดหรืออย่างน้อยก็เมินเฉยกับเหตุการณ์นี้ แต่ไม่ใช่กับพวกเขาทั้งสองคน “ทิม” และ “สตีเฟ่น” ชายผิวขาวสองคนที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างและมองว่าทุกคนมีค่าเท่ากันหมด ไม่มีใครหรือชาวผิวสีคนไหนสมควรได้รับการเลือกปฏิบัติจากความผิดที่พวกเขาไม่ได้ก่อ นั้นทำให้ทิมและสตีเฟ่นวางแผนที่จะรณรงค์การเหยียดสีผิวนี้ แน่นอนว่าการแจกใบปลิวเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นสิ่งต้องห้ามและผิดกฎหมายเพราะแม้แต่รัฐบาลก็ยังเป็นกลุ่มคนที่เหยียดสีผิว ทำให้พวกเขาคิดหาทางที่จะทำการแจกใบปลิวรณรงค์การเหยียดสีผิวนี้ จึงทำการวางระเบิดที่ดัดแปลงมาจากเครื่องเย็บผ้าและไม่เป็นอันตรายกับผู้คน จนกระทั่งใบปลิวปลิวว่อนไปทั่วเมือง ทำให้พวกเขาต้องหลบหนีแต่ก็ไม่รอด พวกเขาถูกจับขังคุกซึ่งมีโทษร้ายแรงและจะติดคุกเป็นเวลาหลายปี และได้ถูกส่งตัวไปยังสถานที่กักขัง แต่ถึงอย่างนั้นแล้วทิมที่เป็นคนอัจฉริยะและต้องการที่จะหลบหนีคุกแห่งนี้จึงได้ร่วมมือกับสตีเฟ่น การแหกคุกที่หากพวกเขาพลาดที่หมายถึงชีวิตจึงได้เริ่มต้นขึ้น 


    Escape from Pretoria รีวิวความรู้สึกหลังจากได้ที่ได้ดูหนังเรื่องนี้บอกเลยว่ารู้สึกกดดันมากๆ และตัวหนังก็สนุกจนเราอยากติดตามว่าตัวเอกของเราจะทำอย่างไรต่อไปกับเหตุการณ์ในข้างหน้านี้ และด้วยความที่หนังเรื่องนี้มีเค้าโครงจากเรื่องจริง จึงมีประเด็นในหนังที่น่าสนใจไม่น้อยที่ว่าด้วยเรื่องการเคารพความเป็นคน สิทธิและเสรีภาพของทุกคนที่ควรจะมี และเหตุการณ์จริงที่คนในยุคสมัยก่อนมีการต่อต้านและเหยียดสีผิวอย่างรุนแรง หนังที่จะเล่าผ่านมุมมองของตัวเองที่เป็นฝ่ายพยายามผลักดันว่าการเหยียดสีผิวเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น และต่อต้านการกระทำที่ลดค่าความเป็นคนนี้ แต่ด้วยความที่ในยุดนั้นชาวผิวสีไม่เป็นที่ยอมรับ จนทำให้ตัวเอกของเราต้องติดคุกเพียงเพราะถูกมองว่าเป็นภัยต่อประเทศชาติ ด้วยความที่ตัวเอกของเราไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อโชคชะตากับความไม่ยุติธรรมหนี จึงได้ตัดสินใจแหกคุกเพื่อเอาอิสรภาพของพวกเขากลับคืนมา คือดูแล้วก็ขนลุกไปด้วย ซึ่งในฉากแต่ละฉากก็คือทำให้คนดูต้องลุ้นตาม บอกเลยว่ามีลุ้นตัวเกร็งแน่นอน โดยรวมแล้วก็คือเป็นหนังที่ดีมากๆเรื่องหนึ่งเลยที่อยากให้เพื่อนๆได้ดู เป็นหนังที่กินใจมากๆเลยล่ะ เว็บดูหนังฟรี


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

MasterMovieBlog รีวิวหนัง : You are My Spring (2021)

MasterMovieBlog รีวิวหนัง : Accidentally In Love (2018)

MasterMovieBlog รีวิวหนัง : Sexify (2021)